เครื่องซักผ้า คือหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ส่วนใหญ่แล้วเกือบทุกบ้านก็มักจะมีติดบ้านและเลือกใช้งานกัน เพราะเครื่องซักผ้าเป็นสิ่งที่สามารถอำนวยความสะดวกและสามารถทุ่นแรงในการซักผ้าไปได้ดีมาก ๆ เลย อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้เครื่องซักผ้าไม่ได้มีแค่แบบที่ใช้กันในครัวเรือนเท่านั้น แต่ยังมีเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน แล้วความแตกต่างของเครื่องซักผ้าทั้งสองแบบจะเป็นอย่างไร มาทำความเข้าใจกัน
ทำความรู้จักกับเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรม
หากพูดถึงเรื่องการทำความสะอาดผ้าหรือการซักผ้าแล้วแน่นอนว่า เราจะนึกถึงเครื่องซักผ้าและเป็นแบบที่ทุกคนรู้จักคงหนีไม่พ้นแบบที่ใช้กันอยู่ในครัวเรือน แต่รู้หรือไม่ว่าความจริงแล้วก็มีเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นเครื่องซักผ้าแบบที่นำมาใช้กันในอุตสาหกรรมหรือร้านสะดวกซักต่างๆมากกว่าใช้ในครัวเรือน เนื่องจากว่ามีคุณสมบัติหลาย ๆ อย่างที่เหมาะสมต่อการใช้งานในอุตสาหกรรมมากกว่าเครื่องซักผ้าแบบทั่วไป
เครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมนั้นจะเป็นเครื่องซักผ้าที่มีขนาดใหญ่ มีหลากหลายขนาด โดยจะมีทั้งขนาด 10kgs หรือใหญ่ไปจนถึงขนาด 60kgs เลย อย่างไรก็ตามปัจจุบันนี้สามารถเห็นเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมได้ทั่วไปเลยตามร้านที่ให้บริการซักผ้าหยอดเหรียญ ซึ่งเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม หยอดเหรียญที่อยู่ตามร้านต่าง ๆ ก็มีหลายขนาดและแต่ละร้านก็มีราคาของเครื่องขนาดต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกันด้วยนั่นเอง
จุดเด่นของเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรม
สำหรับเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมนั้นก็ถือว่ามีความแตกต่างจากเครื่องซักผ้าแบบทั่วไปพอสมควรเลย โดยจุดเด่นที่สำคัญมาก ๆ ของเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานที่สูงกว่าเครื่องซักผ้าแบบทั่วไป นอกจากนั้นแล้วในส่วนของเทคโนโลยี หรือฟังก์ชันการใช้งานของเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมก็มีความโดดเด่นและสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่าเครื่องซักผ้าแบบทั่วไป ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นข้อดีของการใช้เครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมในธุรกิจร้านสะดวกซักมากว่าการใช้เครื่องซักผ้าตามครัวเรือนมากอีกด้วย
เครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมต่างกับเครื่องซักผ้าทั่วไปยังไง
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมน้ันมีความแตกต่างจากเครื่องซักผ้าแบบทั่วไปที่ใช้กันอยู่ในครัวเรือน โดยความต่างก็มีอยู่หลากหลายอย่างเลย แล้วจะมีอะไรที่ต่างกันบ้าง มาเจาะลึกกันให้เข้าใจกัน ซึ่งสิ่งที่ต่างกันก็มีดังต่อไปนี้
- รอบการใช้งาน ในส่วนนี้เครื่องซักผ้าแบบที่ใช้กันทั่วไปได้ถูกออกแบบมาให้มีการใช้งานประมาณ 3,000 รอบ หรือราว ๆ 2-3 รอบต่อสัปดาห์ แต่ในส่วนของเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมนั้นจะสามารถใช้งานได้นานมากกว่า 8 รอบต่อวันเลยทีเดียว หรือรวม ๆ แล้วก็สามารถใช้งานได้มากกว่า 30,000 รอบนั่นเอง
- วัสดุของตัวเครื่อง โดยเครื่องซักผ้าแบบที่ใช้ในอุตสาหกรรมจะมีการนำเอาวัสดุที่มีความแข็งแรงทนทานมาก ๆ มาใช้ เช่นเดียวกันกับ โครงสร้างภายในเครื่องซักผ้าของ AQUA คือ สแตนเลสซึ่งแข็งแรงมากนอกจากนั้นจะต้องสามารถป้องกันสนิม และทนการกัดกร่อนได้ดีด้วย ซึ่งจะช่วยให้อายุการใช้งานของเครื่องซักผ้านั้นยาวนานมากขึ้น อีกทั้งยังทำความสะอาดง่ายและราคาไม่แพงเหมือนวัสดุอื่นๆ
- การออกแบบ ในส่วนนี้จะมีการออกแบบเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมให้สามารถจุผ้าได้จำนวนมาก อีกทั้งจะมีการออกแบบตัวเครื่องมาให้มีความทนทานและการป้องกันปัญหาน้ำรั่วซึมจาก Drain valve ที่เสียง่ายอีกด้วย จึงเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับการนำมาใช้ในธุรกิจสะดวกซัก
- ลักษณะการทำงาน ที่เครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมได้ผ่านการออกแบบมาให้จุผ้าได้ในจำนวนที่เยอะมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด ซึ่งเครื่องจะปั่นด้วยความเร็วสูง ทำให้ใช้เวลาในการทำงานน้อย เช่นเดียวกับเครื่องซักผ้า AQUA ที่ใช้ในแบรนด์ Clean Chain และนอกจากนี้ยังสามารถเก็บเสียงหรือแรงสั่นสะเทือนได้ดีทำให้สามารถวางเครื่องซักผ้าใกล้กันได้ถึง 1 เซนติเมตร โดยเครื่องซักผ้าไม่สั่นชนกัน ซึ่งเป็นที่ที่สะดวกต่อเจ้าของธุรกิจในการวางแผนพื้นที่ในการจัดต้องธุรกิจร้านสะดวกซักและป้องกันเสียงดังที่จะเกิดขึ้นได้
- ระยะเวลาในการซัก ในเรื่องนี้ถือว่าช่วยทำให้เครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมมีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าเป็นเครื่องซักผ้าที่ใช้เวลาในการซักไม่นาน โดยจะอยู่ที่เวลา 30 นาทีเท่านั้นเอง ในขณะที่หากเป็นเครื่องซักผ้าทั่วไปจะใช้เวลา 40-60 นาทีต่อการซักผ้า 1 ครั้ง เช่นเดียวกันกับเครื่องซักผ้า AQUA ที่ใช้โดย Clean Chain ใช้เวลาซักและอบแห้งเพียง 60 นาที
- ความสะอาด โดยเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมนั้นก็จะช่วยในเรื่องของการทำความสะอาดเสื้อผ้าได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสามารถช่วยขจัดคราบสกปรกได้ดีด้วย รวมถึงในการซักยังสามารถปรับอุณหภูมิของน้ำได้หลากหลายระดับ พร้อมทั้งยังมีฟังก์ชันการฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ด้วยนั่นเอง เช่นเดียวกับ แบรนด์ AQUA ที่สามารถกำหนดตารางการฆ่าเชื้อในถังซักก่อนเริ่มงาน ซึ่งทำให้ผู้บริโภคใช้บริการซักรีดแบบบริการตนเองของเราได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น
- การรับประกัน โดยการรับประกันของเครื่องซักผ้าทั่วไปมักจะอยู่ที่ประมาณ 1-2 ปี หรือหากว่าเป็นเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมจะมีระยะเวลาในการรับประกันนานขึ้น โดยระยะเวลาการรับประกันเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมจะนานขึ้นและแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันไป สำหรับเครื่องซักผ้า AQUA ที่ CleanChain ใช้ ให้การรับประกัน 3 ปี สำหรับเครื่องซักผ้าทั้งหมดและการรับประกัน 5 ปี สำหรับส่วนประกอบที่สำคัญอื่นๆอีกด้วย
สรุปบทความ
จากบทความที่ได้กล่าวไปทั้งหมดนั้น ก็คงจะช่วยให้หลาย ๆ คนได้เข้าใจและเห็นความต่างของเครื่องซักผ้าแบบทั่วไปและเครื่องซักผ้าแบบอุตสาหกรรมกันมากขึ้นแล้ว โดยสรุปคือเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรมดีกว่าเครื่องซักผ้าในครัวเรือนอย่างมากทั้งในด้านวัสดุและประสิทธิภาพ ช่วยให้เจ้าของธุรกิจที่ลงทุนในร้านซักผ้าแบบบริการตนเอง มีความรู้และเลือกใช้เครื่องซักผ้าที่มีความทนทานมากขึ้นและยืดอายุการใช้งานได้ดี ทั้งผู้บริโภคยังสามารถได้รับบริการซักผ้าที่ดีขึ้นอีกด้วย